สธ.เผยไทยตายจาก “วัณโรค” ปีละ 1 หมื่นราย ติดบัญชีประเทศมีผู้ป่วยรายใหม่สูงสุด วิจัยพบอุปสรรคยุติวัณโรคมาจาก “แรงงานข้ามชาติ” ชง 3 แนวทางลดปัญหา เน้นคัดกรองดูแลต่างด้าวทุกกลุ่ม สร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน

เมื่อวันที่ 26 มี.ค. นพ.รุ่งเรือง กิจผาติ ประธานคณะกรรมการ MIU กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า วัณโรคยังคงเป็นปัญหาสาธารณสุขที่สำคัญของไทย มีผู้เสียชีวิตมากกว่าปีละ 10,000 ราย สธ.ประกาศแผนปฏิบัติการระดับชาติต่อต้านวัณโรค ตั้งแต่ปี 2560 ตั้งเป้ายุติวัณโรคภายในปี 2578 ขณะนี้บรรลุผลในระดับหนึ่ง โดยปี 2564 ไทยสามารถออกจากรายชื่อประเทศที่มีปัญหาวัณโรคดื้อยามากที่สุดในโลกได้สำเร็จ แต่ยังอยู่ในบัญชีรายชื่อประเทศที่มีผู้ป่วยวัณโรครายใหม่สูงสุด และมีวัณโรคร่วมกับโรคเอดส์สูงสุด อุปสรรคคือวัณโรคในแรงงานข้ามชาติ ประมาณการว่ามีมากถึง 4.5 ล้านคน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านที่มีอัตราป่วยวัณโรคสูงกว่าไทย มีการย้ายถิ่นเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และกำแพงด้านภาษาวัฒนธรรม ทำให้ไม่สามารถคัดกรองวัณโรคได้ครอบคลุม อัตรารักษาสำเร็จต่ำ อัตราการขาดยาสูงกว่าคนไทยหลายเท่า ส่งผลกระทบต่อการดูแลป้องกันวัณโรคในคนไทย

นพ.รุ่งเรืองกล่าวว่า ทีมวิจัยด้านสังคมและสุขภาพ สำนักวิชาการสาธารณสุข สธ. จึงทำโครงการ “วัณโรคไร้รัฐกับแรงงานไร้พรมแดน : มิติสังคมวัฒนธรรมของวัณโรคในบริบทการพัฒนาประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน กับความมั่นคงทางสุขภาพของประเทศไทย” วิจัยปัญหาและพัฒนาข้อเสนอการควบคุมวัณโรคในประชากรแรงงานข้ามชาติ ดำเนินการในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และ จ.สมุทรสาคร พบว่า 1.อุปสรรคในการคัดกรองวัณโรค การรักษาที่ต่อเนื่อง และการป้องกันการแพร่เชื้อ คือ ปัจจัยส่วนบุคคลทั้งด้านภาษาและวัฒนธรรม ขาดความรู้เกี่ยวกับโรค การเคลื่อนย้าย ขาดการดูแลคุณภาพชีวิตและสวัสดิการที่เหมาะสมในการทำงาน ขาดความต่อเนื่องของสิทธิรักษาจากปัญหาสถานะบุคคล

2.ผู้ที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน ทั้งเจ้าหน้าที่รัฐ นายจ้างและนายหน้าจัดหาแรงงาน ขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัณโรค จึงขาดการป้องกันตนเองอย่างเหมาะสม ละเลยการปฏิบัติตามกระบวนการคัดกรองและรักษาวัณโรคตามแนวทางที่กำหนด และขาดความใส่ใจดูแลแรงงานที่มีความเสี่ยงหรือป่วยเป็นวัณโรค และ 3.การได้รับยารักษาวัณโรคจากระบบบริการสาธารณสุขของไทยโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย มีการติดตามต่อเนื่องโดยภาคประชาสังคม มีส่วนทำให้แรงงานข้ามชาติที่ป่วยวัณโรค ให้ความร่วมมือรับการรักษาอย่างต่อเนื่องจนหายขาด

ผลการวิจัยมีข้อเสนอ คือ 1.ควรบูรณาการหน่วยงานภาครัฐ เอกชนและประชาสังคมที่เกี่ยวข้องกับแรงงานข้ามชาติ พัฒนาระบบการดูแลและป้องกันวัณโรคที่ครอบคลุมประชากรแรงงานข้ามชาติทุกกลุ่ม ให้ได้รับการคัดกรองและดูแลรักษาที่ต่อเนื่อง 2.ควรร่วมมือกับองค์กรภาคประชาสังคม องค์กรระหว่างประเทศ และกองทุนโลก เพิ่มความครอบคลุมการคัดกรองโรคและให้ยารักษาวัณโรคที่เหมาะสมกับแรงงานข้ามชาติอย่างทั่วถึง โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายตามหลักสิทธิมนุษยชน และ 3.ควรร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและองค์กรระหว่างประเทศ พัฒนาแนวทางการสร้างความร่วมมือกับประเทศเพื่อนบ้าน ด้านการควบคุมวัณโรคในแรงงานข้ามชาติ ซึ่งเป็นประเด็นด้านความมั่นคงทางสุขภาพและเศรษฐกิจระหว่างประเทศ

ที่มา : https://mgronline.com/qol/detail/9660000028128